หมิ่นประมาท: ทำอย่างไรถึงไม่ติดคุก
การสื่อสารในยุคดิจิทัลเปิดโอกาสให้เราแสดงความคิดเห็นได้ […]
การสื่อสารในยุคดิจิทัลเปิดโอกาสให้เราแสดงความคิดเห็นได้ […]
จำเลยไม่เคยทราบว่าตนถูกฟ้องทั้งปรากฏว่ามีผู้แอบอ้างเป็น […]
คดีหมิ่นประมาท เป็นคดีหนึ่งที่มีความละเอียดอ่อนในเรื่อง […]
การใส่ความกันบนโลกออนไลน์ การแขวน ดูถูก ดูหมิ่น การกล่า […]
ปรึกษาทนายความคดีขับรถชนคนตาย ถูกรถชน ยินดีช่วยเหลือให้ […]
ตั้งแต่เรามีอินเทอร์เน็ตใช้กันข่าวสาร สาระ ความรู้ และอ […]
โจทก์และจำเลยทั้งสองได้รับโอนมรดกที่ดินพิพาท เมื่อออกโฉ […]
ลักษณะ ๗ ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง หมวด ๓ ความผ […]
“ฉ้อโกง” กับ “ผิดสัญญาทางแพ่ง” แตกต่างกันอย่างไร ? คำว่ […]
คดีหมิ่นประมาทฟ้องร้องกันอย่างไร ข้อหาหมิ่นประมาท ตามปร […]
กรณีทำสัญญาซื้อขายที่ดินและจดทะเบียนโอนที่สำนักงานที่ดิ […]
“ปัญหาค่าส่วนต่างจากการคืนรถที่ถูกยึด” หลัง […]
ทนายความรับร่างพินัยกรรมมรดก ทนายความรับร่างพินัยกรรมมร […]
ทนายความคดีครอบครองปรปักษ์ หากท่านได้รับความเดือดร้อนไม […]
ปรึกษาทนายความคดีลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร ยินดีให้คำปรึกษาฟ้ […]
ทนายความกรุงเทพมหานคร ทนายพัตร์ ยินดีให้คำปรึกษา รับฟ้อ […]
ปรึกษาทนาย ผิดสัญญาหมั้น เรียกค่าทดแทน สินสอด ลูกความสา […]
- คำพิพากษาฎีกาที่ 136/2515 (วรสารอัยการ ก.ย. 34 หน้า 133) การที่ชายร่วมประเวณีกับหญิง โดยต่างยินยอมพร้อมใจ แม้หญิงจะถึงแก่ความตาย โดยชายมิได้คาดคิด จึงไม่มีเจตนาฆ่า หรือทำร้ายร่างกาย / (พนักงานอัยการ กรมอัยการ โจทก์ จ่าโทแอนดรู โรเบิร์ททูมส์ จำเลย) จำเลยไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย เจตนาที่แท้จริงของจำเลย ก็เพื่อจะร่วมประเวณีกับผู้ตายเท่านั้น แต่เนื่องจากการร่วมประเวณีเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย โดยขณะที่จำเลยกับผู้ตายกำลังร่วมประเวณีกัน เป็นครั้งที่ 2 จำเลยกับผู้ตายได้กอดรัดกันแรงกว่าครั้งแรก เพราะความสนุก และอาจเป็นไปได้ที่มือจำเลยบังเอิญไปถูกที่คอผู้ตาย โดยเฉพาะตอนที่ว่าใช้มือช้อนคอขึ้นจูบหน้า เมื่อใกล้จะสำเร็จความใคร่นั้น นิ้วมือของจำเลยไปกดถูกที่เส้นเลือดเลี้ยงสมองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นการกดอย่างไม่แรงด้วย ประกอบกับผู้ตายมีสุขภาพไม่ดี เคยแท้งลูก เป็นลมและเวียนศีรษะเป็นประจำ ด้วยเหตุเหล่านี้เอง ที่เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย และจำเลยกระทำกับผู้ตาย เมื่อใกล้จะสำเร็จความใคร่ ด้วยความยินยอมพร้อมใจ และสนุกด้วยกันทั้งสองฝ่าย โดยไม่อาจคาดคิดได้เลยว่า จะเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย จึงเห็นว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย หรือแม้แต่เจตนาทำร้ายร่างกาย อันจะเป็นความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาแต่อย่างไร
ปรึกษาทนายความคดีหมิ่นประมาท ทนายความช่วยเหลือผู้ที่เดื […]
ทนายความคดีทำร้ายร่างกาย ทำร้ายร่างกายสาหัส หากลูกความ […]
ทนายความรับปรึกษากฎหมาย ทางเรายินดีให้คำ ปรึกษากฎหมาย ก […]
ปรึกษากฎหมาย ทนายความ คดีมรดก กรณีลูกความต้องการ […]
?
- 1.1. ความผิดฐานลักทรัพย์(โดยวิธีใช้อุบาย) เป็นการใช้อุบายเพื่อหลอกเอาการยึดถือ
- 1.2. ส่วนความผิดฐานฉ้อโกงเป็นการใช้อุบายหลอกลวงเพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นโดยไม่ได้หลอกเอาการยึดถือ
- ตามความเห็นนี้ การหลอกให้คนใช้มอบทรัพย์ให้โดยหลอกว่าเจ้านายบอกให้มาเอาทรัพย์ กรณีนี้คนใช้เพียงเเต่ยึดถือทรัพย์เเทนเจ้านาย การครองครองทรัพย์ยังอยู่กับเจ้านายหลอกเอาทรัพย์นั้นมาอยู่ในการยึดถือของตนซึ่งอ้างว่ามีอำนาจยึดถือเเทนเจ้าทรัพย์เพราะใช้อุบายหลอกว่าเจ้านายให้มาเอา กรณีนี้เป็นการหลอกเอาการยึดถือก่อน เเละเมื่อเอาทรัพย์นั้นไป ในลักษณะ ตัดกรรมสิทธิ์ ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ไม่ผิดฐานฉ้อโกงเพราะในขณะที่หลอกลวงนั้นการครอบครองทรัพย์ยังอยู่กับเจ้านาย(ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์)คนใช้เพียงเเต่ยึดถือเเทน จะเห็นได้ว่าตามเเนวความเห็นนี้เมื่อดูฎีกา จะไม่สามารถนำมาพิจารณาได้ทุกกรณี ซึ่งไม่น่าจะเป็นหลักตายตัว เเละยังไม่ชัดเจน โดยพิจารณาหลักเกณฑ์ในด้านผู้เสียหายเป็นสำคัญ แทนที่จะพิจารณาจากการกระทำของจำเลย (ฎ 1563/03(ป),321/10,611/30,3245/45)
