ตั้งแต่เรามีอินเทอร์เน็ตใช้กันข่าวสาร สาระ ความรู้ และอื่น ๆ ได้ใกล้ชิดเรามากยิ่งขึ้น คุณสามารถค้นหาอะไรที่อยากรู้ได้ในอินเทอร์เน็ต ยิ่งปัจจุบันมีโซเชียลเน็ตเวิร์คยิ่งทำให้เราเข้าถึงข้อมูลมากมายทั่วโลกได้เป็นอย่างดี จากอดีตที่พวกเราต้องติดตามข่าวสารในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ วิทยุ เป็นการรับสื่อทางเดียว แต่ในปัจจุบันเราสามารถแสดงความคิดเห็นของเราได้ และนอกจากนี้การแสดงความคิดเห็นของเราก็อาจทำให้เราดังได้โดยไม่รู้ตัว หรืออาจทำลายเราได้โดยไม่รู้ตัวเช่นเดียวกันด้วย
เมื่อเทคโนโลยีมันมาถึงจุดที่สามารถสื่อสารกันได้ทั่วโลกแล้วนั้น อาจมีทั้งข้อดีและข้อเสียตามมา เช่น หากเราเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นสาธารณะ บางครั้งความคิดเห็นของเราก็อาจนำพาคดีความมาหาเราได้โดยไม่รู้ตัว กฎหมายไทยเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาทแต่เดิมนั้นการหมิ่นประมาทคือการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม ทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง จะได้รับโทษคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่ว่าคุณจะเอาข้อมูลจริง หรือ เท็จ ไปกล่าวแก่บุคคลที่สามก็ผิดทั้งนั้น และต้องได้รับโทษ ยิ่งในปัจจุบันนี้สื่อโซเชียลทำให้คนทั่วไปสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ นี่เองที่ทำให้เกิดคดีหมิ่นประมาทที่ยาวเป็นหางว่าว ยิ่งมีการโพสต์ประจานกันยิ่งเข้าข่ายการหมิ่นประมาณด้วยการโฆษณาได้อีกด้วย
ด้วยสาเหตุนี้รัฐจึงออกกฎหมายใหม่ ใจความว่า มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
ด้วยกฎหมายเช่นนี้ทำให้เกิดทนายคดีหมิ่นประมาทขึ้นมากมาย เพราะมีการฟ้องร้องกันเยอะจริง ๆ แทบไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว อาชีพทนายในปัจจุบันนี้จึงมักต้องกลายเป็น ทนายคดีหมิ่นประมาทไปโดยปริยาย
ถ้าคุณไม่อยากโดนฟ้องอย่าได้เขียนคำเหล่านี้เชียว หรือแม้กระทั่งเขียนความจริงแต่ทำให้คนที่พูดถึงมีความเสียหาย เสียชื่อเสียง ก็ห้ามทำ ห้ามเขียนเด็ดขาด สิ่งที่คุณทำได้ในประเทศนี้คือ ต้องชมอย่างเดียว การชมอย่างเดียวจำเป็นต้องชมมาจากใจด้วย เพราะหากเป็นการประชดประชันก็สามารถถูกฟ้องได้เช่นเดียวกัน ไทยเราเป็นเมืองพุทธ จำเป็นต้องเข้มงวดให้มากในเรื่องการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ การมีกฎหมายหมิ่นประมาทต่าง ๆ ขึ้นมา ทำให้เมืองพุทธของเราสงบและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
การเอาตัวรอดจากการแสดงความคิดเห็นในเชิงหมิ่นประมาท
- เขียนชมเชยอย่างเดียว
- อย่าเขียนความจริง ต้องเขียนชมอย่างเดียวเท่านั้น ถึงแม้จะไม่เป็นความจริงก็ตาม
- อย่านำใครมาประจานในพื้นที่สาธารณะ
- อย่าใช้คำใบ้ หรืออักษรย่อ เพราะอาจทำให้คนอื่นรู้เป้าหมายอยู่ดีว่าเขียนถึงใคร
- อย่าวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นในทางที่เสียหาย แม้นั่นจะเป็นความจริงก็ตาม
แต่ถ้าหากคุณยังต้องการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในที่สาธารณะ ก็สามารถทำได้ หากเกิดปัญหาการฟ้องร้องขึ้นมา อย่างแรกเลยควรปรึกษาทนายก่อน พยายามรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด นำไปปรึกษากับทนาย
การหลีกเลี่ยงพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นก็เช่นเดียวกัน หากเป็นเรื่องดราม่า หรือเรื่องการเมืองในประเทศ การไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ จะปลอดภัยกับตัวคุณมากที่สุด เพราะบางครั้งคุณก็อาจจะลืมตัวได้ แล้วแสดงความคิดเห็นลงไปว่าคนนี้ผิด โดยที่ไม่ได้มีการตัดสินใด ๆ จากศาล เพียงเท่านี้คุณก็อาจโดนฟ้องได้ คุณควรยับยั้งชั้งใจ คิดและอ่านทุกตัวอักษรก่อนคอมเมนต์ว่าไม่ได้เอ่ย หรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นการดูหมิ่นใคร หรือหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นในพื้นที่สาธารณะ
บางครั้งการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันก็สามารถทำให้คุณถูกอีกฝ่ายฟ้องได้เช่นกัน หรือกรณีที่คุณไปรับประทานอาหาร แล้วเขียนรีวิวว่า ไม่อร่อย ก็สามารถพาคุกมาหาคุณได้ด้วย ถึงแม้อาหารนั้นจะไม่อร่อยก็ตาม หากคุณอยากแสดงความคิดเห็นจริง ๆ ควรจะชื่นชมรสชาติอาหาร ถึงมันจะไม่อร่อยจริง ๆ ก็เขียนชมลงไป เพียงเท่านี้คุณก็รอดแล้ว หรือหากคุณไปพักโรงแรมใด แล้วได้รับการปฏิบัติต่อคุณไม่ดี หรือห้องที่คุณพักมีสภาพไม่เหมือนกับที่ลงโฆษณาไว้ หากคุณไปเขียนความจริง คุณก็อาจจะถูกฟ้องได้ คุณต้องเขียนชมอย่างเดียว ถึงแม้จะเป็นการโกหกอย่างร้ายกาจ เพื่อความปลอดภัยแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการคอมเมนต์ในด้านที่เสียหาย และเลิกใช้บริการไปเองน่าจะเป็นทางออกที่สันติวิธีที่สุด เพียงแต่ในฐานะผู้บริโภคคุณก็มีสิทธิที่จะรีวิวบอกเล่าถึงสิ่งที่คุณชอบ และไม่ชอบต่อสินค้า และบริการที่คุณใช้อยู่เช่นกัน
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณอยากแสดงความเห็นใด ๆ ขอให้คิด และตรวจสอบข้อความดีๆ ทุกครั้งก่อนการแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ชีวิตของคุณพบแต่ความสุขและความเจริญต่อไป แล้วคุณจะมีความสุขกับสื่อโซเชียลทั้งหลาย แต่ถ้าหากคุณพบเจอปัญหาการฟ้องร้องเข้าจริง ๆ และต้องการปรึกษาในคดีหมิ่นประมาท สามารถติดต่อได้ที่
โทรหาผม ทนายพัตร์
