คดีหมิ่นประมาท ต่อว่าสามีให้ภริยาฟัง เป็นหมิ่นประมาทหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6311/2562 (หน้า 76 เล่ม 11) ก่อนเกิดเหตุ ว.ภริยาโจทก์ได้พูดกับ บ.บุตรจำเลยว่า “พ่อมึงเลว พ่อมึงนักเลงอันธพาล ต้องโทษติดคุก ระรานคนทั้งหมู่บ้านทะเลาะไปทั่ว นี่ก็เอาปืนไปไล่ยิงคนท้ายซอย” เป็นเหตุให้จำเลยไม่พอใจ เมื่อจำเลยพบกับภริยาโจทก์ในวันเกิดเหตุจึงได้เข้าไปด่าทอภริยาโจทก์และกล่าวถ้อยคำพาดพิงถึงโจทก์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวโจทก์ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเกี่ยวข้องด้วย จำเลยจึงไม่ควรกล่าวถ้อยคำพาดพิงถึงโจทก์ การด่าว่าโจทก์ของจำเลยจึงไม่มีสิทธิอ้างเหตุป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรมได้ เนื่องจากโจทก์ไม่ได้กระทำการใดต่อจำเลย และการที่จำเลยกล่าวถ้อยคำพาดพิงถึงโจทก์ว่าโจทก์เคยติดคุก ซึ่งวิญญูชนโดยทั่วไปย่อมเข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีเคยถูกศาลพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุกและโจทก์ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำจากการกระทำผิดอาญา มิใช่เพียงแต่ถูกคุมขังไว้ในห้องควบคุมของสถานีตำรวจโดยศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาลงโทษ อันเป็นความเข้าใจส่วนตัวของจำเลยเท่านั้น เมื่อโจทก์เพียงแต่ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้โดยมิได้ถูกจำคุกจริง การที่จำเลยกล่าวถ้อยคำพาดพิงถึงโจทก์ไม่ตรงต่อความจริงดังกล่าวต่อหน้าภริยาโจทก์ จึงเป็นการใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อ.มาตรา 326 แล้ว การกระทำของจำเลยไม่เข้าข้อยกเว้นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 329(1)
