ทนายสู้คดีฉ้อโกง

ทนายสู้คดีฉ้อโกง

โจทก์อ้างว่าถูกจำเลยหลอกลวงจึงมอบเงินให้จำเลยไปให้ชาวบ้านกู้ยืมโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราอันเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เท่ากับโจทก์มุ่งประสงค์ต่อผลประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว แม้การให้กู้ไม่เกิดขึ้นเพราะเป็นเพียงการหลอกลวงของจำเลยหรือไม่ก็ตาม ถือว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานฉ้อโกงอันจะมีอำนาจฟ้อง และเมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีส่วนอาญาแล้ว ศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลแขวงย่อมไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีส่วนแพ่งที่มีทุนทรัพย์เกินเขตอำนาจ


คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948 / 2565

โจทก์อ้างว่าหลงเชื่อคำหลอกลวงของจำเลยจึงมอบเงินให้แก่จำเลยไปให้ชาวบ้านกู้ยืมด้วยการเรียกดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าร้อยละสิบห้าต่อปี อันเป็นความผิดต่อ พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 แสดงให้เห็นอยู่ในตัวว่าโจทก์รับข้อเสนอดังกล่าวโดยมีเจตนามุ่งประสงค์ต่อผลประโยชน์อันเกิดจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้การกระทำที่ผิดกฎหมายนั้นไม่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นเพียงการหลอกลวงของจำเลยเพื่อฉ้อโกงโจทก์หรือไม่ก็ตาม ถือว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะนำคดีมาฟ้องจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกง
เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีส่วนอาญา ศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลแขวงย่อมไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีส่วนแพ่งที่มีทุนทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้องมาเกินกว่าสามแสนบาท ได้ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบ มาตรา 25 (4)

author avatar
ทนายความใกล้ฉัน