ทนายฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์
ฎีกาที่ 957/2566 แพ่ง ทรัพย์ ฎีกานี้ก็น่าสนใจมาก
ผู้ครอบครองปรปักษ์ซึ่งยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงทางทะเบียน จะยกสิทธิฯ ขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ขายฝากและเสียค่าตอบแทนในคดีนี้ ได้หรือไม่?
.
- ด. ได้รับจัดสรรที่ดินมา ผู้ร้อง ได้ซื้อที่ดินพิพาทจาก ด. (ไม่มีเอกสารสิทธิ) เมื่อปี 2510 **และ #ครอบครองปลูกบ้านอยู่อาศัยมาตั้งแต่ก่อน ด. #ขอออกโฉนดที่ดิน
- ด. ได้ #ยื่นขอออกโฉนดที่ดินเมื่อปี 2511 หลังจากนั้น ด. ถึงแก่ความตายเมื่อปี 2513
จากนั้น บรรดาทายาทของ ด. (บรรดาบุตรของ ด.) ยื่นขอรับโอนมรดกที่ดินดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานที่ดิน **และทางราชการ #ได้ออกโฉนดที่ดินให้แก่ทายาท(บรรดาบุตรของ ด.) เมื่อปี 2515
- หลังจากนั้น บรรดาทายาทของ ด. ก็ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา **นาย ส.ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของทายาท (รับรู้ถึงการปลูกบ้านของผู้ร้อง) ได้โอนที่ดินพิพาทให้แก่นางสาว ร. (บุตรของนาย ส. ผู้จัดการมรดกฯ) เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2557
แล้วจากนั้น วันที่ 24 ต.ค. 2557 นางสาว ร. ได้นำที่ดินพิพาท #ไปขายฝากแก่ผู้คัดค้าน มีกำหนดไถ่ 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญาขายฝาก แล้วก็ไม่ได้ไถ่คืนภายในกำหนดเวลา
- ส่วนผู้ร้อง #ได้ปลูกบ้านและครอบครองที่ดินพิพาทตลอดมา โดยความสงบและโดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ #จนถึงปัจจุบัน #เป็นเวลา50ปี (เป็นเวลากว่า 10 ปี) ผู้ร้อง #จึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 แล้ว
- ***แต่เมื่อการได้มาซึ่งที่ดินพิพาทอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ของผู้ร้อง #เป็นการได้มาโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม **ซึ่งสิทธิอันยังมิได้จดทะเบียนนี้ **มิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก ผู้ได้สิทธิมา “โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว” ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคสอง ตอนท้าย
- ดังนั้น การได้มาซึ่งที่ดินพิพาทโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรมของผู้ร้อง #จะใช้ยันผู้คัดค้านซึ่งได้ที่ดินพิพาท จาก ร. โดยการรับซื้อฝากและตกเป็นสิทธิแก่ผู้คัดค้านเพราะเหตุนางสาว ร. ผู้ขายฝากมิได้ใช้สิทธิไถ่ภายในกำหนดเวลาไถ่ #ได้ **#ต่อเมื่อผู้คัดค้านซึ่งเป็นบุคคลภายนอก มิได้ทำหนังสือสัญญาขายฝากที่ดินพิพาท #โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต เท่านั้น
- ปรากฏจากฎีกาย่อยาว ตอนทำสัญญาขายฝากระหว่างนางสาว ร. กับ ผู้คัดค้าน ปรากฏว่า ตัวแทนของผู้คัดค้านไปเข้าไปดูที่ดินพิพาทพบบ้านของผู้ร้อง ***แต่กลับไม่ได้สอบถามผู้ร้องว่าบ้านของผู้ร้องปลูกอยู่ในที่ดินพิพาทได้อย่างไร
**ประกอบกับคำคัดค้านของผู้คัดค้าน #ก็ยอมรับว่าผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินพิพาทมาก่อนที่ ด. ขอออกโฉนดเมื่อปี 2511 #แสดงว่าต้องรับรู้ข้อเท็จจริงมาจากนาย ส.ผู้จัดการมรดกของทายาท กับ นางสาว ร. ผู้ขายฝากนั่นเอง** นางสาว ร. ก็รับรู้ถึงการปลูกบ้านของผู้ร้องเช่นกัน (มิเช่นนั้นแล้วผู้คัดค้านจะอ้างในคำคัดค้านยอมรับเช่นนั้นได้อย่างไร)
- ข้อเท็จจริง #ฟังไม่ได้ว่า ผู้คัดค้าน ได้ทำหนังสือสัญญาขายฝากที่ดินพิพาทกับนางสาว ร. #โดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต
- แม้ผู้คัดค้านซึ่งเป็นบุคคลภายนอก #ได้เสียค่าตอบแทน ***ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะได้รับความคุ้มครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคสอง
ผู้คัดค้าน #จึงไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาทดีไปกว่าผู้ร้อง ซึ่งได้ที่ดินพิพาทมาโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรมแล้วได้