ทนายคดีขับไล่

ทนายคดีขับไล่

     โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทกับเรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือน จำเลยให้การว่า ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ในศาลชั้นต้นตามราคาที่ดินพิพาท แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยกับให้ชำระค่าเสียหายเดือนละ 2,500 บาท จำเลยมิได้อุทธรณ์เรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินอีก จึงเป็นเพียงคดีฟ้องขับไล่บุคคลใดๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์ เมื่อศาลชั้นต้นกำหนดค่าเสียหายไม่เกินเดือนละ 4,000 บาท จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง 

     คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4193 / 2564
     โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทกับเรียกค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 15,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ในศาลชั้นต้นตามราคาที่ดินพิพาท
      ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทและให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 2,500 บาท นับถัดจากวันฟ้อง จำเลยมิได้อุทธรณ์ว่า ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์อีก คงอุทธรณ์เพียงว่า จำเลยมีสิทธิอยู่บนที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขาย ถือไม่ได้ว่าจำเลยอุทธรณ์กล่าวอ้างแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์อีกต่อไป แต่เป็นเพียงคดีฟ้องขับไล่บุคคลใดๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์ เมื่อศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในอัตราเดือนละ 2,500 บาท โจทก์มิได้อุทธรณ์ ต้องถือว่าที่ดินพิพาทอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ 4,000 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง
author avatar
ทนายความใกล้ฉัน